top of page
Search

5C Diamond Buying Guide

5C Diamond Buying Guide


หลักการเลือกซื้อเพชรตามหลัก 5C จากตำราประเมินเพชรของ GIA ให้ได้เพชรสวยถูกใจคุณที่สุด เราเขียนแบบสรุปโดยง่าย อ่านแล้วเข้าใจทันที


1. GIA ย่อมาจาก Gemologist Insitute of America เป็นองค์กรแรกที่นำหลักการประเมินคุณภาพเพชรมาใช้ในระดับสากล จากฐานข้อมูลเพชรที่มี

2. 4C คือ การประเมินเพชรสี่ด้านได้แก่ CUT การเจียระไนว่าได้เหลี่ยมสวยไหมสัดส่วนถูกต้องไหม, CARAT น้ำหนักเพชร, COLOR สีของเพชร, CLARITY ความสะอาดของเพชร และ C ตัวที่ 5 คือ Certificate

3. เพชรทั้งโลกใช้หลัก GIA 4C ในการประเมินกำหนดคุณภาพ ว่าเพชรเม็ดนี้สเปคระดับไหนในแต่ละด้านของ GIA 4C พอได้คุณภาพ ก็นำไปประเมินราคาได้

4. เพชร GIA คือเพชรที่ผ่านการประเมินโดย GIA และมีการออกใบรับรองคุณภาพให้ หรือที่เราเรียกกันว่า Certificate


เวลาเลือกซื้อเพชรให้คำนึงถึง 4C + C นี้เสมอ ปกติแล้วลูกค้าจะมีความต้องการในใจว่าอยากได้สเปคแบบไหน ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องน้ำหนัก Carat หรือ สี มาก่อนเป็นอันดับแรก ทั้งนี้ ไม่ได้จำเป็นเสมอไป เพชรทุกเม็ดมีความสวยงามในตัวรอเจ้าของตัวจริง

1 - COLOR

สีของเพชร ทาง GIA กำหนดสีเกณฑ์สูงสุดคือ D Color หรือภาษาไทยคนไทยเราเรียกกันว่าน้ำ 100 นี้เอง และลดหลั่นลงมาเช่น น้ำ 99 = E Color , น้ำ 98 = F Color


สาเหตุที่ GIA เลือกเอาอักษร D มาใช้แทน A B C เพื่อลดความ Bias ว่าหากน้ำ 100 ต้อง A แบบนี้ครับ เพราะ เพชรทุกสีมีค่าแตกต่างกันตามความต้องการของลูกค้า บางท่านต้องการขนาดใหญ่ ไม่ต้องการน้ำหรือสีใส เป็นต้น


นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งแบบกลุ่มคือ Colorless คือ D - F Color น้ำ 100-98 และ Near colorless คือ G หรือน้ำ 97 ลงมา



2 - CLARITY

ด้านในคือจุดที่ลูกค้ามองเห็นภาพยากที่สุดเพราะเป็นการประเมินส่งที่อยู่ข้างในเพชร หรือ ที่เราเรียกกันว่าตำหนิ ครับ ซึ่งจริงๆ ฝรั่งเรียกกัน inclusion หรือสิ่งเจือปนมากกว่า เพื่อเลี่ยงความ Bias เพราะบางที ตำหนิบางประเภทมีค่ามาก ควรค่าแก่การสะสมและเพิ่มมูลค่าให้เพชรเม็ดนั้นด้วย เช่นตำหนิรูปหัวใจ ตำหนิรูปดาวหางพร้อมประกายเป็นทาง


การประเมินตำหนิใช้แว่นขยายขนาด 10 เท่า หรือที่เรียกว่า Loupe 10X สองดูสิ่งที่อยู่ข้างใน


สำหรับ GIA นั้นกำหนด เกณฑ์การประเมินไว้ดังนี้


FL = Flawless คือ ไม่มีตำหนิเลยแม้แต่จุดเดียวเมื่อส่องด้วย แว่นขยาย 10X และ ไม่มีรอยขีดข่วนเลยใดๆทั้งสิ้น


IF = Internal Flawless คือไม่มีตำหนิภายในเลยแม้แต่จุดเดียวเมื่อส่องด้วยแว่นขยายขนาด 10 เท่า


VVS = Very Very Slightly คือมีตำหนิขนาดเล็กมากขนาดเท่าเม็ดฝุ่นเมื่อส่องด้วยแว่นขยายขนาด 10 เท่า


VS = Very Slightly คือมีตำหนิขนาดเล็กประมาณเม็ดทรายเล็กมากๆเมื่อสองแว่นขยายขนาด 10 เท่า


ในส่วน SI และ I นั้น ตำหนิอาจจะมองเห็นได้ตาเปล่าแล้ว

3 - CUT

เพชรที่เจียระไนได้สัดส่วนถูกต้อง จะทำให้แสงที่เข้าไปข้างในกลับมาออกมา ทำให้เราเห็นเพชรเล่นไฟเป็นที่ประทับใจ


เกณฑ์ CUT สูงสุดของ GIA คือ Excellence ซึ่งเรายังแนะนำให้ลูกค้าเลือกซื้อเพชรที่ได้สัดส่วนนี้เท่านั้น


สัดส่วนที่ถูกต้อง เหลี่ยมมุมที่คมจะทำให้เกิดการเล่นไฟสูงสุด เพราะแสงเข้าไปข้างในวิ่งออกมาเข้าสู่ตาเราได้เต็มที่สูงสุด


CUT เป็นด้านที่เราอยากให้ลูกค้า ให้ความสำคัญเช่นกัน เมื่อกำหนดงบประมาณการซื้อเพชร หากเป็นเพชรกลม GIA 3EX หรือที่เรียกกันว่า Triple Excellence Diamond ซึ่งตัองได้ Excellence อันเป็นเกณฑ์สูงสุดของ GIA ทั้งสามด้านอันได้แก่ สัดส่วน, การขัดผิวความเงา, ความสมมาตรในทุกด้าน


4 - CARAT

น้ำหนักของเพชร เราใช้หน่วยกะรัตในชี้วัด เพราะหน่วยกรัมนั้นยังถือว่าใหญ่เกินไปสำหรับ อัญมณีมีค่า หากเทียบแล้ว 1 กะรัตเท่ากับ 0.2 กรัม เท่านั้นซึ่งเบามากๆ


การเลือกขนาดชองเพชรขึ้นอยู่กับงบประมาณและความพึงพอใจของลูกค้าล้วนๆ หลายๆท่านจะใช้ข้อนี้เป็นหนึ่งในข้อหลักในการเลือกซื้อ ก่อนไปเลือกตามหลัก 4C อื่นๆ


5 - Certificate

ใบ Certificate คือใบรับรองที่ออกโดยสถาบันที่ทำการประเมินเพชรเม็ดนั้นโดยใบรับรองจะมีการระบุ Serial Number ซึ่งจะสลักอยู่ตรงขอบเพชรนอกจาก GIA แล้ว สถาบันหลักๆยังมี HRD, IGI เป็นต้น


สำคัญที่สุด อย่างแรกในการอ่านใบรับรองคือมีการระบุว่าเป็นเพชรแท้ธรรมชาติ Natural Diamond ไว้อย่างชัดเจนเพราะแต่ละสถาบันอย่างเช่น GIA ก็มีการประเมินเพชรแลบหรือเพชรสังเคราะห์ที่เกิดจากการสร้างของมนุษย์รวมทั้งวัตถุคล้ายเพชรด้วยเช่นกัน หากเป็นเพชรแลปหรือเพชรสังเคราะห์ จะมีการระบุว่า LAB Grown Diamond ลงไปในใบ Certificate



เพราะเราเข้าใจกระบวนการ เกรดเพชรของ GIA แบบเจาะลึกโดยทีมนักอัญมณีศาสตร์จาก GIA โดยตรง ทำให้เราคัดเพชรได้อย่างละเอียดให้กับลูกค้าที่ผ่านมาทุกท่าน ตรงตามความต้องการที่สุด ช่วยให้ลูกค้าประหยัดเงินงบประมาณที่ไม่จำเป็นไปกับการซื้อเพชรที่เกินสเปคความต้องการมากเกินไป ให้ลูกค้าไปลงทุน คชจ ส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะสำหรับพิธีแต่งงานซึ่งเป็นงานที่ใช้งบประมาณสูงอยู่แล้ว


การซื้อเพชรแต่ละครั้ง ไม่ใช่การสั่งซื้อตามความต้องการลูกค้าเท่านั้นแต่เป็นการสื่อสาร เข้าถึงถึงความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าทุกท่าน ว่าลูกค้าต้องการเพชรสเปคไหน รวมทั้งเปรียบเทียบเพชรแต่สเปคได้อย่างชัดเจน นี่คือความรับผิดชอบหลักของเรา


สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาเรื่องการเลือกซื้อเพชร นัดหมายเข้ามาเจอกับ Gemologist จาก GIA ของทางร้านได้เลย


Image : GIA.EDU





bottom of page